แนะนำ ! วิธีเพิ่มความเย็นให้บ้านบางพระ ริมเขา ฉบับรักษ์โลก

เข้าสู่ฤดูร้อนแล้วหลายบ้านก็คงจะเริ่มเหงื่อตกกับค่าไฟ เพราะเปิดเครื่องปรับอากาศกันทั้งวันทั้งคืน เนื่องจาก สภาพอากาศประเทศไทยนั้นอยู่ใกล้บริเวณเส้นศูนย์สูตร จึงทำให้หน้าร้อนยิ่งทวีคูณความร้อนมากขึ้นกว่าฤดูไหน ๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยเซฟเงินในกระเป๋าแล้ว ยังไม่ช่วยเซฟพลังงานให้กับโลกใบนี้ด้วย

แต่ในวันนี้ ไลฟ แอนด์ ลีฟวิ่ง มีวิธีการดี ๆ ในการลดอุณหภูมิของบ้านให้เย็นลงได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องย้ายบ้านใหม่ไปอยู่ที่อื่น ทั้งยังเป็นวิธีที่ใครก็สามารถทำได้ เป็นเคล็ดลับแนวทางที่ไม่ยากอย่างที่คิด ว่าแต่จะมีข้อแนะนำในการเพิ่มความเย็นให้บ้านบางพระอย่างไรบ้างนั้น เลื่อนลงไปติดตามอ่านพร้อมกันได้เลย

สิ่งที่ต้องรู้ ถ้าไม่อยากปล่อยให้บ้านบางพระร้อนเกินไปแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม

ไลฟ แอนด์ ลีฟวิ่ง แนะนำวิธีช่วยให้บ้านเย็นขึ้นง่าย ๆ เพียงแค่ต้องรู้สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น การจัดบ้านคลายร้อน การติดตั้งตัวช่วยด้วยพัดลมระบายอากาศ หรือแม้แต่การเลือกใช้ของตกแต่งนำความเย็น นอกจากจะลดอุณหภูมิบ้านได้ดีในช่วงฤดูร้อน ก็ยังเป็นอีกหนึ่งทางที่ประหยัดพลังงาน ช่วยให้รักษ์โลกได้มากกว่าเดิม

• วางผังบ้านให้ถูกทิศ

การวางผังบ้านให้ถูกทิศทางตั้งแต่เริ่ม จะช่วยให้ตัวบ้านได้รับความเย็นจากลมที่พัดมาตลอดทั้งปี โดยทิศเหนือ และทิศใต้จะเป็นทิศทางที่มีลมพัดตลอดเวลา จึงเหมาะกับการตั้งให้เป็นทิศของหน้าบ้าน หรือหลังบ้าน เพราะจะทำให้เย็นสบายแม้จะเป็นฤดูร้อนก็ตาม ส่วนทิศตะวันออก และทิศตะวันตกจะเป็นทิศทางที่แสงแดดสาดส่องตลอดเวลา ดังนั้น จึงเหมาะที่จะวางผังห้องน้ำของบ้านให้อยู่ในทิศทางดังกล่าว เนื่องจาก ห้องน้ำจะมีความชื้นในตัว ช่วยลดรังสีความร้อนจากแสงแดดได้ดี

• เลือกใช้วัสดุกันความร้อน

แม้จะวางผังบ้านถูกทิศ แต่หากไม่ได้คำนึงถึงการใช้วัสดุกันความร้อนในตอนก่อสร้าง อย่างไรแล้วที่อยู่อาศัยก็ยังคงมีอุณหภูมิสูงขึ้นอยู่ดีเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าร้อน เพราะฉะนั้นในตอนที่กำลังสร้างบ้านก็อย่าลืมเลือกวัสดุที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้น ตัวอย่างเช่น การติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่หลังคาบ้านหรือบนฝ้า เพื่อช่วยดูดซับรังสีความร้อนจากแสงแดดที่จะส่งมาสู่ตัวบ้าน หรือการเลือกใช้อิฐมวลเบาในขั้นตอนการก่อสร้างบ้าน 

เนื่องจาก ในอิฐมวลเบาจะมีฟองอากาศแทรกอยู่ จึงทำให้สามารถป้องกันความร้อนได้ดี นอกจากนี้ การติดตั้งระแนง หรือกันสาดก็ยังช่วยป้องกันแสงแดดส่องเข้าสู่ตัวบ้านได้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะในทิศทางที่แดดส่องถึงโดยตรง นอกจากจะช่วยคลายความร้อนให้ตัวบ้าน หากเลือกกันสาด หรือระแนงที่ดีไซน์เข้ากับตัวบ้านก็จะยิ่งเสริมให้บ้านดูสวยงามน่าอยู่มากยิ่งขึ้น

• ใช้สีที่ให้ความรู้สึกเย็น

การเลือกสีโทนเย็นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นได้แม้จะอยู่ในช่วงหน้าร้อน แต่บางครั้งสีโทนเย็นก็อาจจะไม่ใช่สไตล์การแต่งบ้านที่ใครหลายคนมองหา เพราะสีโทนร้อนนั้นช่วยให้บ้านดูมีชีวิตชีวาได้มากกว่า ซึ่งปัจจุบันนี้มีการพัฒนาสีทาบ้านที่ใช้นวัตกรรมทนความร้อนเข้ามาผสมผสาน แม้จะเป็นสีโทนไหนก็ช่วยลดอุณหภูมิของบ้านได้ดี ช่วยให้ตัวบ้านเย็นสบายมากขึ้น เนื่องจาก สามารถสะท้อนคลื่นความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวบ้านได้

• ติดตั้งพัดลมระบายอากาศ

การติดตั้งพัดลมระบายอากาศในบ้านช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เป็นการเติมอากาศใหม่เข้าไปเพื่อลดความอับชื้น และพัดพาพลังงานความร้อนสะสมให้ออกไปนอกตัวบ้าน ทำให้อุณหภูมิในที่อยู่อาศัยลดลงได้แม้จะเป็นช่วงหน้าร้อน โดยพัดลมระบายความร้อนสำหรับติดตั้งในบ้านเดี๋ยวนี้ก็สามารถหาซื้อได้ง่าย และราคาไม่แพง ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้บ้านเย็นลงได้แถมยังไม่สร้างมลภาวะให้กับโลกด้วย

• ปลูกต้นไม้อาศัยร่มเงา

แม้จะเป็นวิธีการที่ต้องใช้เวลา แต่การปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่ออาศัยร่มเงาสร้างความเย็นให้กับบ้านก็ถือเป็นอีกทางหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อยู่อาศัย และรักษ์โลกไปพร้อมกัน นอกจากนี้ ต้นไม้ยังผลิตออกซิเจนออกมาให้คนที่อยู่ในบ้านบางพระรู้สึกสดชื่นอีกด้วย โดยเฉพาะกับไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่จะแผ่กิ่งก้านบังแดดให้กับตัวอาคาร แต่ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลของต้นไม้แต่ละชนิดก่อนปลูก เพราะบางต้นก็มีรากที่ชอนไชทำให้หน้าดิน และตัวบ้านเสียหาย

• ดับร้อนด้วยน้ำในบ่อ

น้ำมีส่วนช่วยดับความร้อนรอบตัวบ้านได้ดี หากบ้านหลังไหนมีพื้นที่กว้างขวางจะลองขุดบ่อน้ำเล็ก ๆ เพื่อให้ช่วยคลายความร้อนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แนะนำ หรือหากมีพื้นที่บริเวณรอบบ้านไม่มาก จะติดสปริงเกอร์ฉีดน้ำตามจุดต่าง ๆ ของบ้านก็ช่วยให้เย็นสดชื่นได้เหมือนกัน แต่ในกรณีที่ติดตั้งสปริงเกอร์นั้นอาจจะต้องตั้งเวลาเอาไว้ ไม่อย่างนั้นหากเปิดใช้งานสปริงเกอร์ตลอดทั้งวันก็จะเปลืองค่าน้ำ และเปลืองทรัพยากรโลกไปอย่างเปล่าประโยชน์

• เสริมวิธีป้องกันแสงแดด

นอกจากจะอาศัยร่มเงาบังแสงแดดจากภายนอกแล้ว ก็อย่าลืมหาวิธีป้องกันแสงแดดสาดส่องเข้าตัวบ้านจากภายในที่อยู่อาศัยด้วย โดยอาจใช้ม่านบังแสงสีสว่าง อย่าง สีขาว มาช่วยป้องกันแสงแดด เพราะสีขาวจะดูดซับความร้อนน้อยกว่าผ้าม่านสีเข้ม หรืออาจมองหาผ้าม่านกันแสงที่ผลิตออกมาด้วยวัสดุพิเศษที่ช่วยดูดซับความร้อน และลดอุณหภูมิในบ้านไปพร้อมกัน

แต่ถ้าม่านยังกันความร้อนไม่อยู่ ลองหาตัวช่วยเพิ่มเติม อย่าง ฟิล์มกรองแสง หรือติดตั้งกันสาด ก็น่าจะช่วยให้ความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านได้น้อยลง บ้านก็จะยังคงอุณหภูมิคงที่ไม่เพิ่มขึ้น ประกอบกับองค์ประกอบภายในบ้านอย่างวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง หรือสีทาผนัง ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้บ้านเย็นขึ้นจนไม่จำเป็นต้องใช้งานเครื่องปรับอากาศ เป็นการประหยัดพลังงานไปในตัว

• ไม่วางเฟอร์นิเจอร์ขวางทางลม

เรื่องทิศทางลม นอกจากจะมีส่วนสำคัญในการวางผังบ้านแล้ว ยังช่วยให้เจ้าของบ้านสามารถปรับวางเฟอร์นิเจอร์ได้ถูกที่ถูกทางด้วย โดยการตั้งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ต้องไม่อยู่ในทิศที่ขวางทางลม เพื่อให้บ้านมีอากาศถ่ายเทสะดวก ไม่รู้สึกร้อนอบอ้าว เพิ่มความเย็นสบายให้กับตัวบ้านง่าย ๆ และเป็นวิธีที่ไม่ทำให้เปลืองพลังงานอีกด้วย

• เลือกของตกแต่งบ้านช่วยลดอุณหภูมิ

การเลือกของตกแต่งบ้านก็อาจทำให้ตัวบ้านมีความเย็นสบายมากขึ้น โดยแนะนำเป็นของใช้ที่ทำจากหินหรือโลหะ และนำของตกแต่งที่ดูดซับความร้อนออก อย่างเช่น พรมปูพื้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดอุณหภูมิในบ้านให้เย็นลงได้ทันที อีกทั้งการจัดบ้านในสไตล์มินิมอล ลดจำนวนเฟอร์นิเจอร์ลง คงไว้แต่ของที่จำเป็นก็จะทำให้บ้านไม่อุดอู้ และมีอากาศพัดผ่านสะดวก

• เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED

เพียงแค่หันมาใช้หลอดไฟ LED ที่ไม่ใช้ความร้อนในการสร้างพลังงาน ก็จะช่วยให้อุณหภูมิของบ้านเย็นลง แถมยังได้ความสว่างที่มากกว่าหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ และประหยัดค่าไฟมากกว่าอีกด้วย ถือเป็นการทำให้บ้านเย็นแบบรักษ์โลกไปในตัว

เป็นอย่างไรกันบ้างกับแนวทางการเพิ่มความเย็นให้บ้านด้วยวิธีง่าย ๆ ที่สามารถช่วยเซฟโลกใบนี้ไปได้พร้อมกัน ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ไม่ยากอย่างที่คิด และสามารถทำตามได้ทุกคน เข้าสู่หน้าร้อนแล้วอย่ารอช้าให้บิลค่าไฟพุ่งกระฉูด นำเคล็ดลับที่เราแบ่งปันไปทำตามกันได้เลย หรือถ้าใครกำลังมองหาโครงการบ้านบางพระ หรือบ้านริมเขา ที่ออกแบบให้เย็นสบายในทุกฤดูกาล ก็สามารถติดต่อ ไลฟ แอนด์ลีฟวิ่งมาได้ที่ Line: @lifeandlivingth หรือโทร.1610