การซื้อ บ้านจัดสรร ระยอง เป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ดังนั้นก่อนซื้อบ้านจัดสรร หรือบ้านแบบใดก็ตามแต่จึงต้องมีการวางแผน และเตรียมการทางด้านการเงินให้ดี เพราะหากวางแผนทางการเงินไม่ดีอาจส่งผลต่อการซื้อบ้านได้ ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธีที่สามารถช่วยให้คุณมีเงินเพียงพอที่จะซื้อบ้านได้ โดยวิธีที่นิยมมากที่สุดคือ การจัดหาเงินทุน หรือการกู้ขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านจัดสรรนั่นเอง 

แต่รู้หรือไม่? ว่าการขอสินเชื่อสำหรับกู้ซื้อบ้านนั้น ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถกู้ขอสินเชื่อได้ เพราะการขอสินเชื่อจำนวนก้อนใหญ่ขนาดนี้ต้องอาศัยคุณสมบัติ และพฤติกรรมหลายอย่าง ซึ่งวันนี้ ไลฟ แอนด์ ลีฟวิ่ง จะพาทุกคนมาดู 5 สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อซื้อ บ้านจัดสรร ระยอง เพราะอาจส่งผลเสียต่อโอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อได้ จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันเลย 

ก่อนขอสินเชื่อซื้อ บ้านจัดสรร ระยอง ไม่ควรทำ 5 สิ่งนี้

สำหรับใครที่กำลังวางแผนขอสินเชื่อซื้อบ้านกันอยู่ ห้ามเลื่อนผ่าน 5 สิ่งที่ไม่ควรทำก่อนขอสินเชื่อที่เรานำมาฝากในวันนี้โดยเด็ดขาด เพราะทั้ง 5 สิ่งนี้มีผลต่อการพิจารณาการขอสินเชื่อ ถ้าอยากให้กู้ขอสินเชื่อผ่านฉลุยก็มาดูกันเลย 

  • ไม่มีเงินก้อนสำรอง

การจะซื้อบ้าน หรือซื้ออะไรก็แล้วแต่ ทุกคนจำเป็นจะต้องมีเงินก้อนสำรองเผื่อเอาไว้ในยามฉุกเฉิน เพราะหลายคนมักเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าการซื้อบ้าน เราคงไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องเสียเงินเพิ่มเติม ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่เหมือนกับที่คิดไว้อย่างแน่นอน 

เนื่องจากการซื้อบ้านไม่ได้จ่ายแค่ค่าซื้อบ้านเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องจ่ายค่าตกแต่ง ค่าเฟอร์นิเจอร์ และค่าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายฉุกเฉินเกี่ยวกับบ้าน แต่ถ้าหากคุณไม่มีเงินสำรองเก็บเอาไว้ใช้เวลาที่เกิดเรื่องฉุกเฉิน ก็อาจส่งผลกระทบต่อสถานภาพทางเงินของคุณได้ ดังนั้นควรจะต้องมีเงินก้อนสำรองเอาไว้

โดยเงินสำรองควรจะต้องมีประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน หรือมีเงินสำรองให้พอใช้ไปอีก 3-6 เดือน ยกตัวอย่างเช่น คุณมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 15,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายต่อเดือนอยู่ที่ 12,000 บาท ดังนั้นคุณควรมีเงินเก็บสำรองอยู่ที่ 36,000-72,000 บาท 

ซึ่งการมีเงินสำรองไม่ได้มีข้อดีแค่เพียงใช้ในยามฉุกเฉินอย่างเดียวเพียงเท่านั้น แต่การที่คุณมีเงินสำรองยังมีผลต่อการขอสินเชื่อซื้อบ้านอีกต่างหาก ยิ่งคุณมีเงินสำรองมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งมีโอกาสขอสินเชื่อซื้อบ้านผ่านมากขึ้นเท่านั้น

  • ห้ามมีหนี้สินอยู่หลายธนาคาร 

เชื่อว่าหลายคนอาจจะเคยชินกับการรูดซื้อสินค้าจนบัตรเต็มวงเงิน หรือมีสินค้าที่กำลังผ่อนอยู่อีกหลายเดือน แม้จะมีข้อดีตรงที่คุณไม่ต้องเอาเงินก้อนใหญ่ไปโปะของเหล่านั้น แต่รู้หรือไม่? ว่าการมีหนี้สิน หรือหนี้ค้างชำระจากการรูดบัตรมีผลต่อการยื่นขอสินเชื่อบ้านอย่างมาก 

เพราะจะทำให้ทางธนาคารที่คุณจะขอสินเชื่อบ้านมองว่าคุณมีภาระที่ต้องจ่ายในทุก ๆ เดือน แล้วถ้าหากคุณต้องชำระหนี้บัตรเครดิตมากกว่า 40% ของรายได้ต่อเดือน ก็จะทำให้ทางธนาคารมองว่าคุณไม่สามารถผ่อนสินเชื่อซื้อบ้านได้อย่างเต็มที่ หรือบางธนาคารอาจมองว่าเป็นการเพิ่มหนี้สินให้กับคุณ และส่งผลทำให้ธนาคารหลายแห่งปฏิเสธการขอสินเชื่อของคุณนั่นเอง 

ดังนั้นก่อนที่คุณจะขอสินเชื่อบ้าน คุณควรที่จะต้องชำระหนี้บัตรเครดิต และหนี้สินต่าง ๆ ให้หมดเสียก่อน หรือถ้าหากชำระได้ไม่หมดก็ควรเคลียร์หนี้สินให้เหลือจำนวนที่น้อยที่สุด แต่ทั้งนี้หากคุณเคลียร์หนี้สินหมดได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีผลต่อจำนวนวงเงิน และการอนุมัติขอสินเชื่อมากขึ้นเท่านั้น  

  • ไม่ควรขอสินเชื่อบ่อยจนเกินไป 

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าการขอสินเชื่อบ้าน สามารถขอสินเชื่อเท่าไหร่ก็ได้ หรือยื่นขอธนาคารไหนก็ได้ แม้จะถูกธนาคารนั้นปฏิเสธการขอสินเชื่อมาแล้วก็ตาม จริง ๆ แล้วการขอสินเชื่อบ้านหากถูกธนาคารแรกปฏิเสธมา ไม่ควรยื่นขอสินเชื่อธนาคารอื่นต่อทันที ควรทิ้งระยะไว้สักประมาณ 1-3 เดือน เพื่อที่คุณจะได้สร้างประวัติทางการเงินใหม่ให้มีความมั่นคง และน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น เมื่อยื่นขอสินเชื่ออีกครั้งธนาคารก็จะได้มั่นใจ และอนุมัติสินเชื่อให้คุณ 

ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ธนาคารไม่อนุมัติสินเชื่อบ้านให้กับคุณ อาจเป็นเพราะเอกสารบางอย่าง เช่น ประวัติทางการเงิน การติดเครดิตบูโร การมีหนี้สินเกินจำนวนที่ธนาคารกำหนดไว้ หรือเหตุผลอื่น ๆ ทำให้ธนาคารปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อให้คุณนั่นเอง

  • ห้ามถอนเงินหมดบัญชีเด็ดขาด

ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ หรือทำธุรกิจส่วนตัว สิ่งที่ไม่ควรทำหากต้องการขอสินเชื่อบ้าน คือ ห้ามถอนเงินหมดบัญชีโดยเด็ดขาด เพราะรายการเดินบัญชีมีผลต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หากคุณถอนเงินจนหมด บัญชีทางธนาคารก็จะมองว่าคุณไม่มีคุณสมบัติ หรือสถานภาพทางการเงินไม่ดีพอที่จะอนุมัติสินเชื่อบ้านให้คุณ 

ดังนั้นหากคุณต้องการถอนเงินในการใช้จ่าย คุณควรทยอยถอนออกในจำนวนที่พอดีในการใช้จ่ายแต่ละเดือน ไม่ควรถอนออกบ่อย ๆ ควรจะมีเงินติดอยู่ในบัญชีอย่างน้อย ⅓ ของรายได้แต่ละเดือน เพื่อแสดงให้เห็นถึงรายการเดินบัญชีที่ชัดเจน ว่าคุณมีเงินเพียงพอที่จะใช้เป็นเงินสำรองฉุกเฉิน

  • ห้ามเปลี่ยนงานบ่อยเกินไป 

หากคุณวางแผนที่จะขอสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ควรหลีกเลี่ยง คือ การเปลี่ยนงานบ่อย ๆ เพราะการขอสินเชื่อบ้านทางธนาคารจะพิจารณาจากประวัติการทำงาน ว่าการงานมีความมั่นคงมากน้อยเพียงใด หากการทำงานมีความมั่นคงมากก็มีผลต่อการอนุมัติสินเชื่อบ้าน แต่ถ้าเปลี่ยนงานบ่อย ๆ ก็อาจทำให้ธนาคารมองว่าภาวะการมีงานทำ และสถานภาพทางการเงินของคุณไม่ชัดเจน และปฏิเสธไม่อนุมัติสินเชื่อของคุณในที่สุด 

นี่ก็คือ 5 สิ่งที่ไม่ควรทำ หากต้องการขอสินเชื่อซื้อ บ้านจัดสรร ระยอง ใครที่มีพฤติกรรมเหล่านี้แนะนำให้หลีกเลี่ยง หรือจัดการให้เสร็จโดยด่วน เพื่อที่คุณจะได้มีประวัติทางการเงินที่ดี มีความมั่นคง และน่าเชื่อถือพอที่ธนาคารจะอนุมัติสินเชื่อบ้านให้กับคุณ 

ทั้งนี้หากใครสนใจ บ้านจัดสรร ระยอง ก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมโครงการบ้านจัดสรรได้ที่ ไลฟ แอนด์ ลีฟวิ่ง กันได้ เพราะเรามีโครงการบ้านทุกรูปแบบ ตั้งแต่บ้านจัดสรรไปจนถึงบ้านเดี่ยว อีกทั้งยังมีที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ครอบคลุมไปด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เราพร้อมให้คุณย้ายเข้ามาอยู่อาศัยอย่างมีความสุข หากต้องการสอบถามเพิ่มเติม หรือนัดเยี่ยมชมโครงการสามารถติดต่อเราได้ที่ Line: @Lifeandlivingth หรือ โทร.1610

บทความที่เกี่ยวข้อง